เงินทุนระยะยาว
หลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ที่กิจการซื้อไว้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหาผลประโยชน์จากการลงทุนนั้น และไม่มีความตั้งใจที่จะขายเมื่อต้องการใช้เงินสด ซึ่งเป็นเงินลงทุนในลักษณะที่ไม่ใช่เงินลงทุนชั่วคราว หรือสินทรัพย์หมุนเวียน แต่เป็นเงินลงทุนประเภทที่จัดอยู่ในสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน
เงินทุน หมายถึง เงินตราที่องค์การธุรกิจจัดหามา เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินกิจการ โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ได้ผลตอบแทนจาการลงทุนอย่างคุ้มค่า เงินทุนมีความสำคัญต่อธุรกิจ เพราะเป็นปัจจัยในการดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่เริ่มตั้งกิจการ และระหว่างดำเนินกิจการ เงินทุนทำให้การผลิต การซื้อขายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทำให้ธุรกิจขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว ประเภทของเงินทุน เงินทุนที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ
หลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ที่กิจการซื้อไว้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหาผลประโยชน์จากการลงทุนนั้น และไม่มีความตั้งใจที่จะขายเมื่อต้องการใช้เงินสด ซึ่งเป็นเงินลงทุนในลักษณะที่ไม่ใช่เงินลงทุนชั่วคราว หรือสินทรัพย์หมุนเวียน แต่เป็นเงินลงทุนประเภทที่จัดอยู่ในสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน
เงินทุน หมายถึง เงินตราที่องค์การธุรกิจจัดหามา เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินกิจการ โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ได้ผลตอบแทนจาการลงทุนอย่างคุ้มค่า เงินทุนมีความสำคัญต่อธุรกิจ เพราะเป็นปัจจัยในการดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่เริ่มตั้งกิจการ และระหว่างดำเนินกิจการ เงินทุนทำให้การผลิต การซื้อขายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทำให้ธุรกิจขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว ประเภทของเงินทุน เงินทุนที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ
1. เงินทุนคงที่
เงินทุนคงที่ หมายถึง เงินทุนที่องค์การธุรกิจจัดหาเพื่อนำมาใช้ในการจัดหาทรัพย์สินถาวร ทรัพย์สินถาวร หมายถึง สินทรัพย์ที่อายุการใช้งานนานเกินกว่า 1 ปี ดังนั้น เงินทุนคงที่ องค์การธุรกิจจึงนำมาใช้ในการลงทุนซื้อที่ดิน สร้างอาคาร ซื้อเครื่องจักร ซื้อเครื่องใช้สำนักงาน เป็นต้น
เงินทุนคงที่ หมายถึง เงินทุนที่องค์การธุรกิจจัดหาเพื่อนำมาใช้ในการจัดหาทรัพย์สินถาวร ทรัพย์สินถาวร หมายถึง สินทรัพย์ที่อายุการใช้งานนานเกินกว่า 1 ปี ดังนั้น เงินทุนคงที่ องค์การธุรกิจจึงนำมาใช้ในการลงทุนซื้อที่ดิน สร้างอาคาร ซื้อเครื่องจักร ซื้อเครื่องใช้สำนักงาน เป็นต้น
2. เงินทุนหมุนเวียน
เงินทุนหมุนเวียน หมายถึง เงินทุนที่องค์การธุรกิจจัดหา เพื่อนำมาใช้ในการจัดหาทรัพย์สินหมุนเวียนหรือใช่ในการดำเนินกิจการ ทรัพย์สินหมุนวเวียน หมายถึง สินทรัพย์ที่อายุการใช้งานไม่เกินหนึ่งปี ดังนั้นเงินทุนหมุนเวียน องค์การธุรกิจจึงนำมาใช้ในการซื้อวัตถุดิบ ซื้อสินค้า จ่ายค่าแรงงาน จ่ายค่าเบี้ยประกันภัยจ่ายค่าขนส่ง จ่สยค่าโฆษณา จ่ายค่าสาธารณูปโภค เป็นต้น
เงินทุนหมุนเวียน หมายถึง เงินทุนที่องค์การธุรกิจจัดหา เพื่อนำมาใช้ในการจัดหาทรัพย์สินหมุนเวียนหรือใช่ในการดำเนินกิจการ ทรัพย์สินหมุนวเวียน หมายถึง สินทรัพย์ที่อายุการใช้งานไม่เกินหนึ่งปี ดังนั้นเงินทุนหมุนเวียน องค์การธุรกิจจึงนำมาใช้ในการซื้อวัตถุดิบ ซื้อสินค้า จ่ายค่าแรงงาน จ่ายค่าเบี้ยประกันภัยจ่ายค่าขนส่ง จ่สยค่าโฆษณา จ่ายค่าสาธารณูปโภค เป็นต้น
ประกอบด้วย
1. เงินกู้ที่มีกำหนดระยะเวลาการชำระคืน
1. เงินกู้ที่มีกำหนดระยะเวลาการชำระคืน
2.หุ้นกู้
3.หุ้นบุริมสิทธิ
4.สามัญ
5.การเช่าทรัพย์สินระยะยาว
2. หุ้นกู้ (Bonds) คือ ประเภทของหนี้สิน หรือ ตั๋วสัญญาใช้เงินระยะยาวที่ออกโดยผู้กู้หรือลูกหนี้ ซึ่งสัญญาว่าจะชำระดอกเบี้ยจำนวนคงที่แต่ละปีและจะชำระคืนเงินต้นให้แก่ผู้ถือหรือเจ้าหนี้ตามระยะเวลากำหนดไว้ล่วงหน้า
1.เงินกู้แบบมีกำหนดระยะเวลาชำระคืน (Term Loans)
มีลักษณะสำคัญ 3 ประการ
1) มีกำหนดระยะเวลาการชำระคืนระหว่าง 1 ถึง 10 ปี
2) มีการชำระคืนเป็นงวดๆ ตลอดอายุของการกู้ยืม
3) มีหลักค้ำประกัน
กำหนดระยะเวลาชำระคืน (Maturities)
1.ธนาคารพาณิชย์กำหนดระยะเวลาการชำระคืนระหว่าง 1-5 ปี
2.บริษัทประกันภัยกำหนดระยะเวลาคืนระหว่าง 5-15 ปี
ข้อจำกัดการกู้ยืม (Restrictive Covenants)
1.กำหนดเกี่ยวกับเงินทุนหมุนเวียนขั้นต่ำ (working capital requirement)
2.กำหนดข้อจำกัดในการกู้ยืมเพิ่มเติม (additional borrowing)
3.ลูกหนี้จะต้องเสนองบการเงินในการพิจารณาเงินกู้ (periodic financial statements)
การชำระคืน (Repayment Schedules)
เงินกู้แบบมีกำหนดระยะเวลาชำระคืน จะมีกำหนดระยะเวลาการชำระคืน เป็นงวดๆแต่ละงวดจำนวนเงินเท่าๆ กัน
วิธีการคำนวณเงินที่ต้องชำระคืนแต่ละงวด
PV = PMT ( 1 – 1 / (1+i)n )
_________________
_________________
i
หรือ คำนวณโดยใช้ตารางปัจจัยดอกเบี้ยมูลค่าปัจจุบัน
PV = PMT(PVIFA i,n )
ลักษณะและเงื่อนไขที่สำคัญของหุ้นกู้ ได้แก่
-สิทธิในการเรียกร้องในทรัพย์สินและรายได้
-ราคาที่ตราไว้
-อัตราดอกเบี้ย
-กำหนดระยะเวลาไถ่ถอน
-คู่สัญญา
-อัตราผลตอบแทนปัจจุบัน
-การจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้
สิทธิในการเรียกร้องในทรัพย์สินและรายได้ (Claims on Assets and Income)
สิทธิในการเรียกร้องในทรัพย์สินและรายได้ของผู้ถือหุ้นกู้จะได้รับการชำระก่อนหุ้นบุริมสิทธิและหุ้นสามัญ
ราคาที่ตราไว้ (Par Value)
คือ มูลค่าตามหน้าตั๋ว ซึ้งจะชำระคืนให้ผู้ถือหุ้น เมื่อหุ้นกู้ครบกำหนดไถ่ถอน
อัตราดอกเบี้ย (Coupon Interest Rate)
อัตราดอกเบี้ยที่ระบุในหุ้นกู้ แสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ของราคาที่ตราไว้ของหุ้นกู้ซึ่งจะจ่ายให้แต่ละปีในรูปดอกเบี้ย
อัตราดอกเบี้ยที่ระบุในหุ้นกู้ แสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ของราคาที่ตราไว้ของหุ้นกู้ซึ่งจะจ่ายให้แต่ละปีในรูปดอกเบี้ย
กำหนดระยะเวลาไถ่ถอน (Maturity)
อายุของหุ้นกู้หรือช่วงระยะเวลาที่ผู้ออกหุ้นกู้จะชำระคืนเงินต้นให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้
อายุของหุ้นกู้หรือช่วงระยะเวลาที่ผู้ออกหุ้นกู้จะชำระคืนเงินต้นให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้
คู่สัญญา (Indenture)
คือ สัญญาระหว่างบริษัทที่ออกหุ้นกู้และผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ( trustee) โดยในสัญญาจะระบุเงื่อนไขของหนี้สินและรายละเอียดต่างๆ เช่น
-ห้ามบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ขายบัญชีลูกหนี้ของบริษัท
-จำกัดเงินปันผลของหุ้นสามัญ
-ข้อจำกัดการซื้อขายทรัพย์สินถาวร
-กำหนดจำนวนหนี้สินที่บริษัทจะจัดหาเพิ่มเติม
อัตราผลตอบแทนปัจจุบัน (Current Yield)
คือ อัตราส่วนของดอกเบี้ยจ่ายแต่ละปีต่อราคาตลาดของหุ้นกู้
อัตราผลตอบแทนปัจจุบัน = ดอกเบี้ยจ่าย
___________
___________
ราคาตลาดของหุ้นกู้
การจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ (Bond Rating)
เป็นการวินิจฉัยเกี่ยวกับความเสี่ยงของหุ้นกู้ในอนาคต ซึ่งจะเป็นตัวชี้ให้เห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ โดยปัจจัยของหุ้นกู้ในอดีตที่มีบทบาทสำคัญในการจัดอันดับ ได้แก่
-การจัดหาเงินทุนของบริษัทมาจากส่วนของเจ้าของมากกว่าส่วนของหนี้สิน
-กำไรจากการดำเนินงาน
-ความผันผวนของผลตอบแทนในอดีต
-ขนาดของบริษัท
-บริษัทมีการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิน้อยหรือไม่ในการระดมเงินทุนของบริษัท
อันดับความน่าเชื่อถือต่ำ ผลตอบแทนในการลงทุนสูง
ประเภทของหุ้นกู้ (Types of Bonds)
1. หุ้นกู้ไม่มีหลักประกัน (Debentures) : เป็นหุ้นกู้ที่ไม่ต้องมีทรัพย์สินมาค้ำประกันหุ้นกู้ที่ออก หุ้นกู้ชนิดนี้ความเสี่ยงและผลตอบแทนจะสูงกว่าหุ้นที่มีหลักค้ำประกัน
2. หุ้นกู้ด้อยสิทธิ (Subordinated Debentures) : เป็นหุ้นกู้ชนิดไม่มีหลักค้ำประกัน ซึ่งมีการกำหนดสิทธิของผู้ถือหุ้นกู้ไว้ด้อยกว่าสิทธิเจ้าหนี้สามัญทั่วไป
3. หุ้นกู้จำนอง (Mortgage Bonds) : เป็นหุ้นกู้ที่มีหลักค้ำประกัน ซึ่งโดยปกติทรัพย์สินที่นำมาค้ำประกันจะมีมูลค่ามากกว่าหุ้นกู้จำนอง แต่ในกรณีที่ทรัพย์สินค้ำประกันขายได้น้อยกว่ามูลค่าหุ้นกู้ ส่วนต่างที่ขาดไปนั้นจะเปลี่ยนเป็นส่วนเจ้าหนี้สามัญทั่วไปEurobonds : เป็นหุ้นกู้ที่ออกเป็นสกุลเงินดอลล่าร์หรือสกุลเงินอื่น และขายให้แก่นักลงทุนนอกประเทศที่เป็นเจ้าของเงินตราสกุลนั้น
4. หุ้นกู้ที่ไม่จ่ายดอกเบี้ย (Zero Coupon Bonds) : เป็นหุ้นกู้ที่กำหนดให้ไม่จ่ายดอกเบี้ย แต่จะจำหน่ายในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่ตราไว้ โดยผลตอบแทนที่ได้รับมากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าหุ้นกู้
5. Junk Bonds : เป็นหุ้นกู้ที่มีความเสี่ยงสูงและการจัดอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าระดับลงทุน (BB) แต่มีการจ่ายดอกเบี้ยในอัตราสูง
3.หุ้นบุริมสิทธิ (Preferred Stock)
เป็นหลักทรัพย์ลูกผสม (hybrid security) เพราะมีลักษณะที่คล้ายทั้งหุ้นกู้และหุ้นสามัญ
ลักษณะที่เหมือนหุ้นสามัญ
-ไม่มีกำหนดระยะเวลาไถ่ถอน
-ถ้าบริษัทไม่จ่ายเงินปันผลจะไม่ถูกบังคับให้ล้มละลาย
-เงินปันผลไม่สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษี
ลักษณะที่เหมือนหุ้นกู้
-เงินปันผลมีการจ่ายในอัตราคงที่เหมือนดอกเบี้ยจ่ายของหุ้นกู้
การจ่ายเงินปันผลหุ้นบุริมสิทธิ -จำนวนเงินปันผลของหุ้นบุริมสิทธิจะกำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์ของราคาที่ตราไว้ หรือกำหนดเป็นจำนวนคงที่
ลักษณะของหุ้นบุริมสิทธิ (Features of Preferred stock)
การออกหุ้นบุริมสิทธิหลายประเภท (Multiple Classes)
-บริษัทสามารถออกหุ้นบุริมสิทธิได้มากกว่าหนึ่งประเภท
สิทธิการเรียกร้องในทรัพย์สินและรายได้ (Claim on Assets and Income)
-สิทธิในการเรียกร้องในสินทรัพย์เมื่อบริษัทล้มละลายจะต่อจากหุ้นกู้แต่ ก่อนหุ้นสามัญ
-สิทธิในการเรียกร้องรายได้ (การจ่ายเงินปันผล) ก่อนหุ้นสามัญ
การสะสมของเงินปันผล (Cumulative Dividends)
-หุ้นบุริมสิทธิสามารถสะสมเงินปันผลได้ เมื่อปีใดที่บริษัทไม่ได้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิสามารถนำเงินปันผลนี้ไปจ่ายในปีถัดไปได้
การแปลงสภาพ (Convertibility)
-สามารถแปลงสภาพจากหุ้นบุริมสิทธิเป็นหุ้นสามัญได้
รูปแบบการไถ่ถอน (Retirement Features)
-การไถ่ถอนหุ้นบุริมสิทธิโดยการเรียกซื้อหุ้นบุริมสิทธิกลับคืน โดยมี ค่าชดเชยประมาณ 10%สูงกว่าราคาที่ตราไว้
-การไถ่ถอนหุ้นบุริมสิทธิโดยการกำหนด sinking fund โดยใช้เงินจาก กองทุนในการไถ่ถอน
สิทธิในด้านอื่นๆ
เช่น จำกัดการจ่ายเงินปันผลให้หุ้นสามัญในกรณีกองทุนที่ใช้ในการไถ่ถอน (sinking fund)ไม่เพียงพอหรือบริษัทประสบปัญหาการเงิ
4.หุ้นสามัญ (Common Stock)
เป็นหุ้นที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของในบริษัทของผู้ถือหุ้น
-ไม่มีกำหนดระยะเวลาไถ่ถอน สามารถอยู่ได้เท่ากับอายุของบริษัท
-ไม่มีการกำหนดเงินปันผลจ่ายสูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้น แต่จะมีประกาศเงินปันผลจ่ายในแต่ละปี
-ในกรณีบริษัทล้มละลายผู้ถือหุ้นสามัญจะยังไม่ได้รับการชำระใดๆจนกว่าเจ้าหนี้และผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิจะได้รับเรียบร้อยแล้ว
ลักษณะของหุ้นสามัญ (Characteristics of Common Stock)
สิทธิการเรียกร้องในรายได้ของบริษัท (Claim 0n Income)
- มีสิทธิเรียกร้องในรายได้ต่อจากเจ้าหนี้และผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ
- รายได้ที่จะจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญจะอยู่ในรูปเงินปันผลหรือกำไรสะสมที่บริษัทจะนำไปลงทุนต่อ
สิทธิในการเรียกร้องในทรัพย์สิน (Claim on Assets)
- กรณีบริษัทเลิกกิจการ สิทธิการเรียกร้องในทรัพย์สินของผู้ถือหุ้นสามัญจะเกิดขึ้นต่อจากเจ้าหนี้และหุ้นบุริสิทธิ
- กรณีบริษัทล้มละลาย ผู้ถือหุ้นสามัญไม่มีสิทธิในการเรียกร้องทรัพย์สิน
สิทธิในการออกเสียง (Voting Rights)
สิทธิในการเลือกคณะกรรมการบริหารของบริษัทและสิทธิในการพิจารณาเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบบางอย่างของบริษัท
วิธีการออกเสียง
- วิธีระบบเสียงข้างมาก (majority voting)
- วิธีลงคะแนนแบบสะสม (cumulative voting)
สิทธิในการซื้อหุ้นใหม่ (Preemptive Rights)
ผู้ถือหุ้นสามัญมีสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญใหม่ในสัดส่วนที่เท่ากับการถือหุ้นเดิม เพื่อรักษาอำนาจในการควบคุมกิจการ โดยผู้ถือหุ้นจะใช้สิทธิหรือไม่ก็ได้
จำกัดความรับผิดชอบ (Limited Liability)
กรณีเมื่อเกิดการล้มละลายของบริษัท ผู้ถือหุ้นสามัญจะรับผิดชอบเท่ากับเงินที่ลงทุนในบริษัทเท่านั้น
5.การเช่าทรัพย์สินระยะยาว (Leases)
5.การเช่าทรัพย์สินระยะยาว (Leases)
เป็นสัญญาเกี่ยวกับการให้สิทธิการใช้ทรัพย์สินของผู้เช่าตลอดระยะเวลาการเช่า โดยเมื่อครบกำหนดผู้เช่าจะต้องคืนทรัพย์สินให้แก่ผู้ให้เช่า
ลักษณะการเช่าทรัพย์สิน
สัญญาเช่าทางการเงิน (Financial lease)
เป็นสัญญาเช่าที่ผู้เช่าไม่สามารถบอกยกเลิกการเช่าได้ก่อนที่สัญญาจะหมด ดังนั้นสัญญาลักษณะนี้ถือเป็นแหล่งเงินทุนระยะยาว
สัญญาเช่าดำเนินงาน (Operating lease)
เป็นสัญญาเช่าที่ผู้เช่าสามารถบอกยกเลิกการเช่าได้ก่อนกำหนด ดังนั้นสัญญาเช่าลักษณะนี้ถือเป็นแหล่งเงินทุนระยะสั้น
ประเภทของสัญญาเช่าทรัพย์สิน (Types of Lease Arrangements)
สัญญาเช่าโดยตรง (Direct Leasing)
เป็นสัญญาที่ผู้ให้เช่าซึ่งเป็นเจ้าของสินทรัพย์ให้เช่าโดยตรงกับผู้เช่า
สัญญาการขายแล้วเช่ากลับคืน (Sale and Leaseback)
เป็นสัญญาที่ผู้เช่าขายทรัพย์สินนั้นให้แก่ผู้ให้เช่า โดยมีการทำสัญญาระบุว่าจะขอเช่าทรัพย์สินกลับคืนภายใต้เงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนด
สัญญาเช่าภาระผูกพัน (Leveraged Leasing)
เป็นสัญญาที่ผู้ให้เช่ามีการจัดหาเงินทุนจากเจ้าหนี้ไปซื้อทรัพย์สินเพื่อนำทรัพย์สินดังกล่าวไปให้เช่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น